“อินคิวบัส”
เสียงกระซิบของเขาดึงดูดชะมัด อา…มือของเขากำลังลูบไล้ไปใต้เสื้อของผม
จงใจปัดผ่านติ่งเนื้อที่ตอนนี้แข็งชันรับสัมผัส เอาอีกสิ สัมผัสผมอีกสิ
รักผมแรงๆให้สมกับที่มาเข้าฝันผมทุกคืนหน่อย
สาบานว่าร่างกายมันตอบสนองโดยอัตโนมัติ
ทุกครั้งที่ริมฝีปากสัมผัสกันผมจะอ่อนระทวย
ไม่นับที่เขาดูดดุนยอดอกผมจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบน่าอายแบบนั้นอีกนะ
เขาจูบผมหนักหน่วงขึ้น เราโรมรันกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนแผ่นหลังผมสัมผัสความนุ่มของเตียง
อ่า…เสื้อผมหลุดออกไปตอนไหนนะ
รู้ตัวอีกทีร่างของผมก็เปลือยเปล่า อ๊ะ นี่ผมเผลอถอดกางเกงเขาออกไปเมื่อไหร่กัน
“อินคิวบัสเหรอ…อ๊า”
เกลียดเสียงตัวเองตอนนี้จริงๆ
ฟังดูกระเส่าอย่างกับนางเอกเอวี ต้องโทษเขาน่ะแหละ
คิมจุนมยอนกำลังใช้ปากกับส่วนนั้นของผม นั่นทำให้ผมรู้สึก…เสียวจนเอ่ยอะไรออกมาลำบาก
ทำได้แค่นอนครางอยู่ใต้ร่างเขาแบบนี้ เคยอ่านเจอผ่านๆว่าอินคิวบัสคือปีศาจที่มาเข้าฝันแล้วร่วมรักกับเจ้าของร่างนั้น
แล้วทำไมต้องเป็นผมกัน แต่เวลาแบบนี้ใครจะสนล่ะ
ผมสนแค่เมื่อไหร่เขาจะเข้ามาในตัวผมเร็วๆแล้วกระแทกถี่ๆจนร่างผมไหวคลอนตามจังหวะเขามากกว่า
ในที่สุดเขาก็แทรกมันเข้ามา
มันไม่อุ่นแบบที่คิดไว้ ก็แน่ล่ะเขาไม่ใช่มนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้น มันเจ็บ…เจ็บจนพูดไม่ออก เจ็บยิ่งกว่าตอนเราทำกันในความฝันเสียอีก
ผมเป็นฝ่ายโน้มคอเขาเข้ามาจูบเพื่อเป็นสัญญาณให้เขาขยับ
ผมลืมความเจ็บปวดไปได้ชั่วขณะตอนที่เรากำลังแลกลิ้นกันอยู่
แต่แล้วเขาก็สอดมันเข้าไปลึกขึ้น กระแทกถี่รัวจนผมครางออกมาไม่เป็นภาษา
“อะ…อ๊า… จุนมยอน อะ…”
มันจบลงแล้ว
ทุกหยาดหยดแห่งความต้องการของเขาอัดเข้ามาในร่างผมจนมันไหลออกมาเปรอะต้นขา ผมนอนหายใจรวยรินอยู่ใต้ร่างของเขา
ใบหน้าขาวนั่นดูเลือนรางเหลือเกิน ราวกับว่าถ้าผมยื่นมือออกไปสัมผัส
ร่างของเขาจะหายไปต่อหน้าต่อตาผม ให้ตายเหอะ
ก่อนหน้านี้ผมยังอยากต่อยหน้าเขาอยู่เลย ตอนนี้ผมกลับต้องการเขา
ต้องการที่จะรั้งให้เขาอยู่กับผมต่ออีกสักหน่อย
“อย่าไปเข้าฝันใครอีกนะ
อยู่กับฉันคนเดียว ได้ไหม”